จากสโมสรอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม สู่สโมสรบาร์เซโลน่า และทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ที่ซึ่งตำนานบางบทถูกเขียนโดย นักเตะยอดเยี่ยมตลอดกาลอย่าง “โยฮัน ครัฟฟ์” ผู้ซึ่งได้ล่วงลับไปในวัย 68 ปี “เขาได้จากไปอย่างสงบ ท่ามกลางครอบครัวที่เขารัก หลังจากที่เขาได้ต่อสู้กับโรคมะเร็งอย่างเข้มแข็ง”
โยฮัน ครัฟฟ์ เป็นนักเตะที่ริเริ่มการเล่นฟุตบอลแนวใหม่และสร้างสไตล์การเล่นที่แตกต่าง รวมทั้งเขาได้รับตำแหน่งผู้จัดการทีมที่สโมสรอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัมกับสโมสรบาร์เซโลน่า เขาได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ด้วยประโยคบนหน้าเว็บไซต์ส่วนตัวอย่างเป็นทางการของเขาที่กล่าวไว้ว่า “เมื่อวันที่ 24 เดือนมีนาคม ค.ศ.2016 โยฮัน ครัฟฟ์ ได้ล่วงลับไปอย่างสงบที่เมืองบาร์เซโลน่า ท่ามกลางครอบครัวอันเป็นที่รักยิ่งของเขา หลังจากที่เขาได้ต่อสู้กับโรคมะเร็งอย่างเข้มแข็ง เหตุการณ์นี้เต็มไปด้วยความเสียใจ ดังนั้นจึงขอความกรุณาให้เคารพความเป็นส่วนตัว ในช่วงระยะเวลาแห่งความเศร้าโศกนี้”
ด้วยผลงานยอดเยี่ยมมากมายที่เขาเคยทำไว้ ด้วยการที่เขาช่วยพาทีมชาติเนเธอร์แลนด์ได้เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกปี ค.ศ.1971 เขาพาสโมสรอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัมคว้าถ้วยแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ ติดต่อกันในฤดูกาล 1971 และ 1973 รวมทั้งการพาทีมคว้าแชมป์เอเรอดีวีซีลีก ซึ่งเป็นลีกสูงสุดของประเทศเนเธอร์แลนด์ ถึง 8 ครั้งกับสโมสรอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม และอีก 1 สมัยกับสโมสรไฟเยอโนร์ด ในปี ค.ศ.1984
ความสำเร็จกับสโมสรบาร์เซโลน่าที่เขาทำผลงานไว้ คือ สมัยเป็นนักฟุตบอลที่เขาคว้าแชมป์ฟุตบอลลีก ลา ลีก้า ได้ในฤดูกาล 1973/74 และสมัยที่เป็นผู้จัดการทีมในปี ค.ศ.1992 เขาพาทีมคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ นอกจากผลงานในสนามแล้ว เขายังได้จัดตั้งมูลนิธิที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในเวลาต่อมา และนอกเหนือจากนั้น โยฮัน ครัฟฟ์ ยังสามารถคว้าถ้วยแชมป์ยูโรเปี้ยน คลับ วินเนอร์ คัพ ได้ทั้งตอนที่อยู่กับสโมสรอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัมและสโมสรบาร์เซโลน่าด้วย
ธีโอ ธีโอดอร์ริดิส เลขาธิการทั่วไปและการประชาสัมพันธ์ของยูฟ่า ได้ออกมากล่าวแสดงความเสียใจดังนี้ “ทางยูฟ่าขอแสดงความเสียใจอย่างมากกับการล่วงลับของนักเตะผู้เป็นตำนานอย่าง โยฮัน ครัฟฟ์ นักเตะเพลย์เมคเกอร์ชาวเนเธอร์แลนด์รายนี้ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของวงการฟุตบอลยุโรป และความสำเร็จทั้งหมดทั้งมวลของเขาในวงการฟุตบอลนั้นจะถูกจดจำไปตลอดกาล โยฮัน ครัฟฟ์ เคยได้รับรางวัล ยูฟ่า เพรสซิเดส อวอร์ด ในปี ค.ศ.2014 สำหรับการที่เขาให้การสนับสนุนวงการลูกหนังและมุ่งมั่นพัฒนาสังคมด้วยการใช้ฟุตบอลเป็นสื่อกลาง การจากไปของเขาถือเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของพวกเราทั้งหมด โยฮัน ครัฟฟ์ พวกเราจะคิดถึงคุณ”
ไมเคิล ฟาน ปรากก์ ราชวงค์ผู้ซึ่งเป็นนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศเนเธอร์แลนด์และรองนายกลำดับที่ห้าของยูฟ่า ได้กล่าวเสริมว่า “เราได้สูญเสียหนึ่งในนักฟุตบอลที่ดีที่สุดตลอดกาล ผู้เล่นหมายเลข 14 และมิตรสหายที่ยอดเยี่ยมแห่งวงการฟุตบอล เราต่างรู้สึกเสียใจ โยฮัน ครัฟฟ์ ได้นำพาวงการฟุตบอลประเทศเนเธอร์แลนด์ก้าวขึ้นไปอยู่จุดสูงสุด และทางสมาคมขอแสดงความเสียใจอย่างมากต่อการสูญเสีย โดยส่วนตัวแล้ว ผมจะคิดถึงโยฮัน เพื่อนของผม อย่างมากมาย”
มิเชล พลาตินี่ ได้กล่าว่า “วันนี้วงการฟุตบอลได้สูญเสียหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลและแบรนด์แอมบาสเดอร์ไป ผมรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์นี้ เพราะโยฮัน ครัฟฟ์ คือฮีโร่ในวัยเด็กของผม เขาเป็นไอดอลของผม และเป็นเพื่อนของผมเช่นกัน ผมจะคิดถึงเพื่อนรักคนนี้ ทั้งนี้ผมของส่งความปารถนาดีให้แก่ครอบครัวของเขาและส่งความรักไปด้วยเช่นกัน”