Categories
blog Rio 2016

ว่ายน้ำเพื่อชีวิตใหม่ ‘มาร์ดินี่’ เงือกสาวซีเรีย ลงแข่งโอลิมปิกสังกัดทีมผู้ลี้ภัย

M88 ‘มาร์ดินี่’ นักว่ายน้ำสาวชาวซีเรียเตรียมพร้อมกับการแข่งขันในโอลิมปิก 2016 อย่างกล้าหาญ เธอคือหนึ่งในสิบนักกีฬาที่ถูกคัดเลือกในลงแข่งภายใต้ทีมผู้ลี้ภัยที่ใช้ธงชาติโอลิมปิกเป็นสัญลักษณ์ ซึ่งเป็นวาระพิเศษที่คณะกรรมการโอลิมปิกให้นักกีฬาที่เป็นผู้ลี้ภัยจากประเทศที่มีปัญหาภายในประเทศนั้น สามารถที่จะลงแข่งโอลิมปิกได้โดยได้รับการสนับสนุนจากโอลิมปิก

เรื่องราวของเธอเป็นที่น่าสนใจ เมื่อ 11 เดือนที่แล้ว เธอได้อพยพออกจากประเทศทางเรือ ซึ่งเธอได้อยู่ในเรือที่กำลังจะจมกับแรงงานข้ามชาติ 20 ชีวิต เธอว่ายน้ำในทะเลอีเจียนที่แสนหนาวเหน็บเพื่อผลักเรือเล็กลำนั้น แต่ด้วยความศรัทธาเธอลี้ภัยไดสำเร็จ และการที่เธอได้เข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้ เหมือนฝันที่เป็นจริง

บ้านเกิดของเธออยู่ที่เมืองดามาสคัสที่ซึ่งถูกลายโดยกองกำลังซีเรีย มีการต่อสู้กันเกิดขึ้น เธอและซาร่าผู้เป็นพี่สาวต้องเดินเท้าผ่านแคมป์ผู้ลี้ภัยที่เลบานอน ที่ๆชาวซีเรียหลายพันคนมองหาการการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในยุโรป โดยการล่องเรือข้ามทะเลจากตุรกีไปยังกรีกโดยผิดกฎหมาย ซึ่งเรือที่เธอโดยสารนั้นมีปัญหากับเครื่องยนต์ ซึ่งเรือต้องลอยลำอยู่กลางทะเล มาร์ดินี่ นักว่ายน้ำผู้ชนะการแข่งขันรายการเวิลด์แชมเปี้ยนชิพเมื่อปี ค.ศ.2012 ได้ตัดสินใจกระโดดลงไปน้ำไปผลักเรือ พร้อมกับพี่สาวและผู้ลี้ภัยอีกสองคน ซึ่งพวกเขาก็ทำสำเร็จ สามารถพาเรือเทียบฝั่งแผ่นดินกรีกได้

“มีเพียงแค่สี่คนที่สามารถว่ายน้ำได้ ฉันมีเพียงแค่มือเดียวที่ใช้ว่ายน้ำ มืออีกข้างต้องผลักเรือ ในขณะที่ต้องตีขาไปด้วย เป็นเวลาสามชั่วโมงครึ่งในน้ำที่เย็นเฉียบ ร่างกายฉันแทบไม่มีความรู้สึก ฉันไม่รู้ว่าจะอธิบายมันอย่างไร” มาร์ดินี่กล่าว

อะไรความทรงจำในฝันร้ายนั้น ? “ฉันจำอะไรไม่ได้ ฉันจำได้เพียงถ้าไม่ว่ายน้ำ ฉันไม่มีทางมีชีวิตรอด บางทีเรื่องราวของเรือลำนั้น อาจเป็นความทรงจำที่ไปในทิศทางบวกของฉันก็เป็นได้”

เธอได้รับการช่วยเหลือและได้พักพิงที่เบอร์ลิน ที่ซึ่งเธอสามารถกอบกู้การเป็นนักว่ายน้ำอาชีพคืนมาได้ และเธอได้รับการเชิญให้เข้าร่วมโอลิมปิกเกม 2016 ที่เธอเชื่อว่า “แสดงให้โลกรู้ว่าโลกของผู้ลี้ภัยไม่ใช่โลกที่เลวร้าย”

เธอไม่ได้รู้สึกว่าเป็นฮีโร่ “บางครั้งมันก็ยากนะ” เธอกล่าว เธอยอมรับว่าไม่ได้รู้สึกสะดวกใจที่จะสวมบทบาทนั้น “แต่มันเป็นอะไรที่มหัศจรรย์มากที่รู้สึกว่าคุณได้เป็นแรงบันดาลให้คนอื่น”