เป็นเวลาถึง 3 เดือนจนกระทั่งถึงวันสุดท้าย ที่คบเพลิงโอลิมปิกเดินทางข้ามประเทศบราซิล จนเดินทางมาถึงเมืองที่ใช้จัดงานคือริโอ เดอ จาเนโร เมื่อวันพุธที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยเรือยอร์ชกับ 7 ลูกเรือชั้นสูงที่เป็นนักกีฬาแล่นเรือเหรียญรางวัลโอลิมปิกทีมชาติบราซิล และคบเพลิงโอลิมปิกมุ่งหน้าไปยังอีกหลายสถานที่สำคัญของเมือง ก่อนจะไปที่มาราคาน่าสเตเดี้ยมเพื่อทำพิธีเปิดกีฬาโอลิมเกม 2016
สำหรับการใช้เรือยอร์ชข้ามอ่าวกัวนาบาร่าซึ่งเริ่มต้นที่เมืองอุตสาหกรรมนิเตอร์รอยไปที่อุทยาทประวัติศาสตร์ทหารเรือที่เมืองริโอ เดอ จาเนโร ใช้เวลาเดินทางกว่า 1 ชั่วโมง การเดินทางถือเป็นระลึกถึงการเริ่มต้นเดินเรือของริโอและทำตามประเพณีการแล่นเรือที่มีมายาวนานของบราซิล ซึ่งกีฬาแล่นเรือนี้เป็นกีฬาที่เก็บเหรียญรางวัลได้มากที่สุดของทีมชาติบราซิลใน
สำหรับวันแรกของคบเพลิงที่ริโอนั้น ขบวนแห่คบเพลิงจะผ่านพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ จากนั้นไปที่โรงละครที่ซึ่งเป็นอาคารอันเป็นอันที่รักของชาวบราซิล และคบเพลิงจะไปเยี่ยมชมชานเมืองที่ด้อยโอกาสของริโอ แล้วจบการเดินทางของวันที่เมืองโนวาอิกวาซู
ในวันพฤหัสบดีซึ่งถูกประกาศให้เป็นวันหยุดแห่งชาติในริโอ ขบวนแห่คบเพลิงโอลิมปิกจะไปที่สถานที่จัดการแข่งขันทางตะวันตกคือโซนบาร์ร่า เดอ ทิจูก้า และโซนดีโอโดโร ที่ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยงชื่อดังอย่าชายหาดไอปานีม่าและโคปาคาปาน่า และในช่วงเย็นจะมีการเฉลิมฉลองคบเพลิงที่เมืองปราคา มาอลัว แขกในงานเป็นเหล่าบุคคลสำคัญของประเทศ ซึ่งจะมีการแสดงแสงสีเสียงบนอ่างน้ำขนาดใหญ่ด้วย
ส่วนในวันศุกร์ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของขบวนแห่ คบเพลิงจะเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาสูงไปที่รูปปั้นพระเยซูที่เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก และคบเพลิงจะได้รับการอวยพรโดยหัวหน้าบาทหลวง ก่อนที่คบเพลิงจะเดินทางไปทั้งตอนกลางและทางใต้ของเมืองริโอ และจะสร้างความทรงจำสุดพิเศษโดยคบเพลิงจะเดินทางโดยใช้สลิงขึ้นไปยังภูเขาซูกาโลฟ อีกหนึ่งสถานที่สำคัญของเมืองริโอ M88
จากนั้นเป็นช่วงเวลาที่คบเพลิงโอลิมปิกจะงดงามมากที่สุด ในพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกที่มาราคาน่าสเตเดี้ยม ที่ซึ่งคบเพลิงจะถูกจุดสว่างไสวให้แสงสว่างแก่ริโอ เดอ จาเนโร ไปจนกระทั่งถึงวันสิ้นสุดการแข่งขัน