กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันใด หลังจากที่นักฟุตบอลซุปเปอร์สตาร์อย่าง หลุยส์ ซัวเรส แห่งทีมชาติอุรุกวัยทุบซุ้มที่นั่งด้วยความโมโห เมื่อทีมของเขาต้องพ่ายให้กับเวเนซุเอล่า 0-1 ในการแข่งขันฟุตบอลโคปา อเมริกา 2016 เมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ทีมชาติอุรุกวัยตกรอบแรกไปเรียบร้อย
ดาวยิงชื่อก้องโลก หลุยส์ ซัวเรสออกอาการไม่พอใจอย่างรุนแรงที่ไม่ได้ลงสนามไปช่วยเพื่อนร่วมทีม เนื่องจากตนเองยังอยู่ในอาการบาดเจ็บ และไม่ได้รับอนุญาตจากทีมแพทย์และโค้ชให้ลงแข่ง “ที่ซัวเรสยังไม่พร้อมลงสนาม เพราะร่างกายเขายังไม่ฟิตและพร้อมสำหรับการแข่งขัน เรื่องนี้ต่างหากที่เป็นประเด็น” ออสการ์ ตาบาเรซ เทรนเนอร์ของทีมอุรุกวัยกล่าว “เราไม่ส่งนักกีฬาที่ร่างกายไม่พร้อม 100% ลงแข่ง เพราะเกรงว่าเขาจะฉุนหรอก” ออสการ์ย้ำ
โดยในเวลาต่อมา หลุยส์ ซัวเรสก็ออกชี้แจงกับสื่อมวลชน กรณีที่เขาทุบซุ้มอย่างรุนแรงว่า เป็นเพราะเขารู้สึกแย่ที่ไม่ได้ลงสนามไปช่วยเพื่อนร่วมทีม โดยเขาอยู่ในสถานะที่ไม่สามารถร่วมลงแข่งขันได้ และกรณนี้ก็ไม่เกี่ยวกับการที่เขาไม่พอใจสต๊าฟโค้ช หรือผู้จัดการทีมแต่อย่างใด ซัวเรสกล่าวว่า “ผมเองก็อยากจะออกมาพูดถึงหลายๆ ประเด็น เพื่อให้ทุกคนเข้าใจความจริงได้ถูกต้อง เพราะร่างกายผมยังไม่ถึง 90% ของความพร้อมเลย” และ “เพราะผมช่วยอะไรเพื่อนร่วมทีมไม่ได้ และสุดท้ายก็ต้องทนเห็นทีมตกรอบแรก และความโมโหพวกนั้นก็ไม่ได้เกี่ยวกับสต๊าฟโค้ชเลย”
สำหรับหลายคนที่เป็นแฟนบอลของดาวดังคนนี้ คงต้องคอตกไปตามๆ กัน เพราะทีมชาติอุรุกวัยต้องตกรอบแรกในศึกฟุตบอลโคปา อเมริกา 2016 นัดพิเศษครบรอบ 100 ปีอย่างน่าเสียดาย เนื่องจากทีมที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน เม็กซิโกเอาชนะจาไมก้าไปได้ที่สกอร์ 2-0
ด้านเกมสุดท้ายของทีมชาติอุรุกวัย แชมป์เก่า 15 สมัย ในการแข่งขันรายการใหญ่ครั้งนี้ เกิดขึ้นที่สนามลินคอห์น ไฟแนนเชียล ฟิลด์ เมืองฟิลาเดเฟีย ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งรอบดังกล่าว ทัพจอมโหดต้องปะทะแข้งกับเวเนซุเอลา ซึ่งก่อนหน้านี้ทีมอุรุวัย นำโดยกุนซือออสการ์ วอชิงตัน ตาบาเรซ ก็ได้พลาดท่าเสียแต้มให้กับเม็กซิโกไปแล้ว 1-3 คะแนน รวมกับต้องพบปัญหาอาการบาดเจ็บของดาวยิง หลุยส์ ซัวเรส ทำให้เขาไม่สามารถลงสนามไปแข่งขันช่วยเหลือทีมได้ จึงต้องเปลี่ยนแผนส่ง แกสตอน รามิเรซ เอดิสัน คาวานี และคริสเตียน สตูอานี ผสานกันเป็นแนวรุกแทน ส่วนฝ่ายตรงข้าม เวเนซุเอลา นัดก่อนหน้านี้โชว์ฟอร์มเยี่ยม เอาชนะจาไมก้าด้วยสกอร์ 1-0 ซึ่งนัดนี้ถือเป็นนัดแห่งความหวัง เพราะหากเอาชนะอุรุกวัยได้ เวเนซุเอลาจะได้ลอยลำเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ไปแบบตัวปลิว กุนซือ ราฟาเอล ดูดาเมล จึงส่งโจเซฟ มาร์ติเนช แท็กทีมกับซาโลมอน รอนดอน ไปเป็นแนวรุกทำประตู
เกมการแข่งขันของทั้งสองเป็นไปตามคาด คือ ส่วนใหญ่อุรุกวัยสุดโหดได้ครองบอลและบุก แต่ไปเสียท่าในนาที 36 ให้กับเวเนซุเอล่า ที่อเลคันโดร เกร์รา ยิงบอลเลยครึ่งสนามมาจากทางด้านขวา แต่ถูกเฟร์นานโด มุสเรลาปัดบอลออกนอกเส้นทางไปชนคาน จังหวะต่อมาลูกกระดอนมาเข้าเท้ารอนดอน แป จึงได้โอกาสยิงสวน ทำเอาบอลเข้าประตูไปอย่างจัง ส่งผลให้เวเนซุเอล่าเอาชนะจอมโหดอุรุกวัยไปได้แบบหวุดหวิด 1-0