หลุยส์ ซัวเรซ สุดยอดสไตรเกอร์ของทีม บาร์เซโลนา ได้ออกมาเปิดเผยว่า เขาได้มีความรู้สึกเสียดายอยู่เล็กๆ ที่ตอนฤดูกาล 2013-14 สามารถยิงประตูให้สโมสร ลิเวอร์พูล ไปได้มากมายแต่กลับไปไม่ถึงการคว้า แชมป์พรีเมียร์ลีกซึ่ง ซัวเรซ นั้นก่อนที่จะย้ายมาอยู่กับทีมเจ้าบุญทุ่ม เคยค้าแข้งให้ ลิเวอร์พูล เป็นเวลานานถึง 3 ปีครึ่ง และที่นั้นเองก็ได้ทำให้เขาพัฒนาอย่างก้าวกระโดดขึ้นมาจนเป็นนักเตะระดับโลกอย่างในทุกวันนี้
“ผมได้เริ่มที่จะเรียนรู้ฟุตบอลสไตล์ยุโรปตอนสมัยอยู่กับสโมสร อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม และผมก็รู้สึกว่าโชคดีมากที่ยิงได้เยอะ นั่นเป็นโอกาสที่ทำให้ผมย้ายไปอยู่กับสโมสร ลิเวอร์พูล ที่ที่ผมเสียดาย เพราะว่าได้กระหน่ำประตูไปมากมาย แต่ก็ยังไม่สามารถช่วยให้ทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้” M88 แทงบอล พนันกีฬา คาสิโน คลิกเลย
“หลังจากนั้นผมก็ถูก บาร์เซโลนา ซื้อตัวมา ที่นี่เต็มไปด้วยนักเตะเก่งๆ มากมาย และพวกเขาก็ทำให้งานของผมง่ายขึ้นกว่าเดิมอีกเยอะเลย” ซัวเรซ กล่าว
หลุยส์ ซัวเรซ ได้เซ็นสัญญาค้าแข้งเป็นนักเตะอาชีพกับสโมสร นาซีโอนัล เมื่อปี ค.ศ. 2005 ซึ่งเป็นสโมสรที่ ซัวเรซ เล่นมาตั้งแต่สมัยอยู่ทีมเยาวชน เมื่อตอนอายุ 19 ปี ซัวเรส ได้ย้ายทีมไปเล่นให้กับสโมสรฟุตบอล โครนิงเงิน ในประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อตอนปี 2006
และ ซัวเรส ได้ย้ายทีมอีกครั้งเมื่อปี 2007 ไปที่สโมสรฟุตบอล อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ซึ่ง ซัวเรสทำผลงานได้ยอดเยี่ยม ในฤดูกาล 2008/09 ซัวเรส คว้ารางวัลนักเตะแห่งปีของสโมสร และทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำจนได้ตำแหน่งดาวซัลโวของสโมสรด้วย รวมทั้ง ซัวเรส ได้รับตำแหน่งกัปตันทีม อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ได้รับรางวัลผู้เล่นแห่งปีของลีกฟุตบอลเนเธอร์แลนด์
ในเดือนมกราคม 2011 สโมสร ลิเวอร์พูล แห่งพรีเมียร์ลีก ได้ซื้อตัว ซัวเรส มูลค่า 26.5 ล้านยูโร ซึ่งการมาของ ซัวเรซ ทำให้ ลิเวอร์พูล ทำผลงานขยับจากอันดับที่ 12 ของตาราง ตอนกลางเดือนมกราคม ปี 2011 มาจบฤดูกาลที่อันดับ 6 ในฤดูกาลต่อมา ซัวเรส พาทัพหงส์แดงคว้าแชมป์ลีกคัพ เป็นสมัยที่ 8 มาครองได้ และเดือนเมษายน ปี 2014 ซัวเรส ได้รับรางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีจากสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ) ประจำฤดูกาล 2013/14
เมื่อเดือนกรกฎาคม 2014 สโมสร บาร์เซโลนา แห่ง ลาลีกา สเปน ได้เซ็นสัญญาดึงตัว หลุยส์ ซัวเรซ ด้วยค่าตัว 75 ล้านปอนด์ เป็นเวลา 5 ปี มาขึ้นยานต่างด้าว ซึ่ง ซัวเรส ก็ยังคงฝีเท้าร้อนแรง ลงสนามร่วมกับแนวรุกระดับโลกอย่าง เมสซี และ เนย์มาร์ ได้อย่างไม่ถูกบดบังรัศมี ทั้งได้กลายเป็นกองหน้าสามประสามที่ซัดประตูเป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว